เวลากินขมิ้นชัน ช่วยป้องกันโรคได้
มีการศึกษาพบว่า
การรับประทานขมิ้นตามเวลาที่อวัยวะต่างๆกำลังทำงาน
จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของขมิ้นให้มากขึ้น โดยวิธีกินขมิ้นชันควรรับประทานขมิ้นชันตามเวลาต่อไปนี้ตามการรักษา
* สมุนไพรขมิ้นเวลา 03.00-05.00
น. ช่วงเวลาของปอด
หากรับประทานช่วงเวลานี้จะช่วยในการบำรุงปอดช่วยให้ปอดแข็งแรง
ช่วยป้องกันการเป็นมะเร็งปากมดลูก ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ผิวหนัง
และช่วยเรื่องภูมิแพ้หายใจไม่สะดวก
* สมุนไพรขมิ้นเวลา 05.00-07.00
น. ช่วงเวลาของลำไส้ใหญ่
ช่วยแก้ปัญหาลำไส้ใหญ่ สำหรับผู้ที่ขับถ่ายไม่เป็นเวลาหรือรับประทานยาถ่ายมานาน
หากรับประทานขมิ้นในช่วงนี้จะช่วยฟื้นฟูปลายประสาทของลำไส้ใหญ่ให้บีบรัดตัวเพื่อช่วยให้ขับถ่ายได้อย่างเป็นปกติ
ช่วยแก้ปัญหาลำไส้ใหญ่ขับถ่ายน้อยหรือมากจนเกินไป
และช่วยป้องกันการเกิดโรคริดสีดวงทวารและมะเร็งลำไส้ได้อีกด้วย
หากรับประทานพร้อมกับโยเกิร์ต น้ำผึ้งนมสด มะนาว หรือน้ำอุ่น
จะช่วยชะล้างผนังลำไส้ให้สะอาดได้
* สมุนไพรขมิ้นเวลา 07.00-09.00
น. ช่วงเวลาของกระเพาะอาหาร จะช่วยลดอาการท้องอืด
ท้องเฟ้อ จุกเสียดแน่นท้อง และยังช่วยแก้อาการปวดเข่า, ขาตึง, บำรุงสมองป้องกันโรคความจำเสื่อมได้อีกด้วย
จะช่วยแก้ปัญหาเรื่องกระเพาะอาหารที่เกิดจากการรับประทานอาหารไม่เป็นเวลา
และยังลดอาการท้องอืด จุกแน่น, ปวดเข่า, ขาตึง, ช่วยบำรุงสมองและป้องกันความจำเสื่อมได้
* สมุนไพรขมิ้นเวลา 09.00-11.00
น. ช่วงเวลาของม้าม
ช่วยแก้ปัญหาเรื่องน้ำเหลืองเสีย มีแผลบริเวณปาก บรรเทาอาการของโรคเบาหวาน
โรคเกาต์ การอ้วนเกินไปหรือผอมเกินไป
* สมุนไพรขมิ้นเวลา 11.00-13.00
น. ช่วงเวลาของหัวใจ ช่วยบำรุงหัวใจให้มี{สุขภาพ|อนามัย|สุขภาพอนามัย|พลานามัย}แข็งแรง
*สมุนไพรขมิ้น เวลา 15.00-17.00
น. ช่วงเวลาของกระเพาะปัสสาวะ
ช่วยบำรุงหูรูดกระเพาะปัสสาวะให้แข็งแรง แก้อาการตกขาว
และการทำให้เหงื่อออกในช่วงเวลานี้จะช่วยทำให้ร่างกายขับสารพิษออกไปจากร่างกายได้มาก
* สมุนไพรขมิ้นเวลา 17.00 น. จนถึงเวลาเข้านอน
การรับประทานขมิ้นในช่วงนี้จะช่วยทำให้ความจำดีขึ้น เมื่อตื่นนอนจะไม่อ่อนเพลีย
การขับถ่ายก็จะดีขึ้นด้วย
การหาซื้อขมิ้นชันมารับประทานเอง
ไม่ว่าจะเป็นแบบผง หรือแบบแคปซูล ควรจะหาซื้อจากแหล่งผลิตที่ได้มาตรฐาน
มีความสะอาดปลอดสารเคมี ไม่มีสารสเตียรอยด์ปลอมปน
และในกระบวนการผลิตนั้นต้องไม่ผ่านความร้อนเกิน 65 องศา เพื่อคงคุณภาพของขมิ้นชันไว้
เคล็ดลับผิวสาวด้วยขมิ้นชัน
1. สูตร ขมิ้นสด (ช่วยให้ผิวเรียบเนียน รักษาสิวอุดตัน สิวอักเสบ)
- นำขมิ้นมาล้างน้ำให้สะอาด แล้วนำไปปอกเปลือก หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
- เสร็จแล้วนำมาปั่นด้วยเครื่องปั่น ใส่กระปุกแช่ในตู้เย็นให้ครบ 1 อาทิตย์
- ใช้คอตตอนบัด จิ้มน้ำขมิ้นแล้วนำมาทาหน้าก่อนล้างหน้า 15 นาที
- ควรใช้ตอนเย็น หรือก่อนนอน เพราะอาจทำให้หน้าเหลือง ต้องล้างประมาณ
2 ครั้งถึงจะออกหมด
2. สูตร ขมิ้นสด / ดินสอพอง / มะนาว (ช่วยให้ผิวหน้าผ่องใสเนียนเรียบ
อ่อนเยาว์ สิวยุบเร็ว)
- ใช้ขมิ้นสดเล็กน้อย / ดินสอพอง 3 เม็ด / น้ำมะนาว 1 ผล
- นำขมิ้นมาล้างน้ำให้สะอาด แล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
- นำขมิ้นที่หั่นแล้วนำมาปั่นรวมกับดินสอพอง
และน้ำมะนาวจนละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน
- จะได้เนื้อครีมเข้มข้นแล้ว
ล้างหน้าให้สะอาดแล้วนำครีมที่ได้มาพอกทิ้งไว้ประมาณ 20 นาทีแล้วล้างออก
- ควรทำเป็นประจำ และสม่ำเสมอสัปดาห์ละ 2-3 ครั้งจะช่วยให้เห็นผลชัดเจนยิ่งขึ้น
3. สูตร ผงขมิ้น / น้ำมะนาว (ช่วยให้หน้าเนียนใส
ช่วยลดอาการบวมแดงจากสิว ช่วยลดสิวและช่วยให้สิวยุบเร็ว)
- นำผงขมิ้นมาผสมกับน้ำมะนาวพอข้น
- นำมาแต้มบริเวณที่เป็นสิวก่อนนอนหรือจะพอกทั่วใบหน้าก็ได้
- ทิ้งไว้ประมาณ 20-30 นาทีแล้วล้างออก
(หรือจนกว่าจะรู้สึกว่าแสบก็ให้ล้างออกได้เลย)
4. สูตร ผงขมิ้น / น้ำนม (บำรุงผิวหน้าให้ผ่องใส อ่อนเยาว์
รักษาสิวเสี้ยน กระชับรูขุมขน รักษาแผลสิว)
- นำผงขมิ้นผสมกับน้ำนม ผสมให้เข้ากัน
- ล้างหน้าให้สะอาดแล้วนำขมิ้นที่ได้มาขัดบนผิวหน้าอย่างเบามือจนทั่วใบหน้า
- แล้วพอกทิ้งไว้ประมาณ 5 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่นๆ
5. สูตร ผงขมิ้น / น้ำผึ้ง (บำรุงผิวหน้าให้ผ่องใส อ่อนเยาว์
รักษาสิวเสี้ยน กระชับรูขุมขน รักษาแผลสิว)
- นำผงขมิ้นผสมกับน้ำผึ้ง ผสมให้เข้ากัน
- ล้างหน้าให้สะอาด แล้วนำขมิ้นที่ได้มาขัดบนผิวหน้าอย่างเบามือจนทั่วใบหน้า
- แล้วพอกทิ้งไว้ประมาณ 5 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่นๆ
6. สูตร ผงขมิ้น / ดินสอพอง (ช่วยฆ่าเชื้อโรค บรรเทาอาการสิว)
- นำดินสอพองมาผสมกับผงขมิ้นแล้วคนให้เข้ากัน
- เสร็จแล้วนำมาแต้มที่หัวสิว
- หากจะนำมาพอกหน้าควรลดปริมาณขมิ้นผงลงจากเดิม
7. สูตร น้ำขมิ้น / นมสด / ดินสอพอง (ช่วยให้ผิวชุ่มชื่น เปล่งปลั่ง
เรียบเนียน ยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย แก้อาการผดผื่นคัน)
- การทำน้ำขมิ้นให้นำขมิ้นสดมาล้างให้สะอาด หั่นเป็นแว่นแล้วตำจนแหลก
ผสมกับน้ำเล็กน้อย แล้วกรองเอาน้ำด้วยผ้าขาวบาง
- เตรียมวัสถุดิบดังนี้ น้ำขมิ้น 1 ช้อนชา / นมสด 2 ช้อนชา /
และดินสอพองสะตุ 5 เม็ดใหญ่
- นำดินสอพองมาบดจนละเอียด แล้วใส่นมสด น้ำขมิ้นผสมลงไปคนให้เข้ากัน
- นำมาพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
8. สูตร ขมิ้นแห้ง / ว่านนางคำ / ไพล / ดินสอพอง (สูตรบำรุงผิว ลดสิว)
- เตรียมวัตถุดิบดังนี้ ขมิ้นแห้ง 25 กรัม / ว่านนางคำ 200 กรัม / ไพล 50 กรัม / ดินสอพอง 1,000 กรัม
- นำทุกอย่างมาผสมรวมกันแล้วบดให้ละเอียด
- เสร็จแล้วนำมาพอกหน้าหรือผิวตัวประมาณ 10 นาทีแล้วล้างออกด้วยนำอุ่นและตามด้วยน้ำเย็นสลับกัน
- หากคุณผิวมันควรนำมาผสมกับน้ำมันมะกรูดเผาไฟ
แต่ถ้าคุณเป็นคนผิวแห้งควรนำไปผสมกับน้ำผึ้ง หรือนมสด
ผลการศึกษาวิจัยขมิ้นชัน
ได้มีการทดลองในผู้ป่วยที่ปวดท้องเนื่องจากมีแผลในกระเพาะอาหาร
การ{ทดลอง|ลองดู|ลอง|ลองทำ|ทดสอบ}ผลการรักษาแผลในกระเพาะอาหารในคน โดยการส่องกล้อง พบว่า ขมิ้นชัน{ช่วย|ช่วยเหลือ|สนับสนุน}ให้แผลในกระเพาะอาหารหายได้ดี
ผู้ป่วยต้องได้รับขมิ้นชันติดต่อกันอย่างน้อย 4 สัปดาห์ เช่นเดียวกับยาแผนปัจจุบัน
แต่ในกรณีของการติดเชื้อ H. pylori พบว่าไม่สามารถฆ่าเชื้อ H. pylori ได้ แต่ก็ยังช่วยรักษาอาการอาหารไม่ย่อย
และลดการอักเสบของแผลในกระเพาะอาหาร ลด อาการปวดแสบท้อง
การรับประทานขมิ้นชันมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูงกว่า
วิตามินอี 80 เท่า
ปัจจุบันจึงนำมาใช้ในโรคที่คาดว่าจะเกิดจากอนุมูลอิสระ อาทิ โรคมะเร็ง
โรคอัลไซเมอร์ โรคหัวใจ และหลอดเลือด
ข้อควรระวัง{ระวัง|จงระวัง|ระแวดระวัง}การใช้ขมิ้นชัน
การ{รับประทาน|กิน|ทาน}ขมิ้นชันเพื่อการรักษาโรคใดๆ ก็ตาม
ถ้าหากเรารู้ว่าเราเป็นโรคอะไร หากรับประทานไปเรื่อยๆ จนโรคนั้นหายไปแล้ว
ก็ควรหยุดรับประทาน ถึงแม้ขมิ้นจะมีประโยชน์ก็จริงแต่หากร่างกายได้รับมากเกินความต้องการอาจจะกลายเป็นโทษเสียเอง
ขมิ้นชันผลข้างเคียงคืออาการแพ้ เช่น คลื่นไส้ ท้องเสีย ปวดหัว นอนไม่หลับ
ดังนั้นหากคุณรับประทานขมิ้นแล้วมีอาการดังกล่าวควรหยุดรับประทานและหายาชนิดอื่นรับประทานแทน
และยังมีความเชื่อว่าขมิ้นชัน โทษและข้อเสียของขมิ้นในแถบภาคใต้ว่าการรับประทานขมิ้นที่มากเกินไปและถี่เกินไปนั้นแทนที่จะช่วยป้องกันโรคมะเร็ง
แต่อาจจะเป็นมะเร็งเสียเอง